Saturday, 25 March 2023

มาโหด มหาเศรษฐีแดนผู้ดี พร้อมสร้างสถิติโลกยื่นซื้อ แมนยู จาก “ตระกูลเกลเซอร์”

ธรรมดาโลกไม่จำ สโมสรอย่าง แมนยู ประกาศขายทีมทั้งที จะซื้อราคาปกติอาจเป็นไปไม่ได้ วันพฤหัสบดีที่ 24 เดือนพฤศจิกายน 2565 ภายหลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีแถลงการณ์ไปเมื่อวานนี้ว่า ตระกูลเกลเซอร์ แม่งาน ของทีมพร้อมที่จะเปิดรับฟังข้อเสนอซื้อขายทีมหรือรวมถึงการเข้ามาเป็นหุ้นส่วนด้วยกันแล้ว หลัง 17 ปีที่เข้ามาคุมอำนาจใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถูกแฟนบอลไล่ส่ง และ ด่าทอไม่เว้นวัน

ซึ่ง ล่าสุด ซัน สปอร์ต สื่อกีฬามีชื่อเสียงของอังกฤษ ได้เปิดเผยว่า เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ หนึ่งในมหาเศรษฐีที่มั่งคั่งมากที่สุดของประเทศอังกฤษ จัดแจงที่จะยื่นข้อเสนอให้ เชื้อสายเกลเซอร์ ได้พิเคราะห์แล้ว โดยคาดว่าในเร็วๆนี้ จะมีความคืบหน้าในหัวข้อนี้

มีการคาดการณ์ว่า ตระกูลเกลเซอร์ ผู้ครอบครอง แมนยู คนเดี๋ยวนี้ ได้ตั้งราคาขายหลังเกิดกระแสข่าวความพอใจเทคโอเวอร์ต่อจากพวกเขาเอาไว้ที่ 5,000 ล้านปอนด์ (220,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ซัน สปอร์ต แถลงการณ์ว่า เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ หวังจะทุบสถิติโลกซื้อแมนยู มาครอบครองด้วยจำนวนเงินสูงถึง 9 พันล้านปอนด์ หรือราวๆ388,471 ล้านบาทเลยทีเดียว

เบคแคม พร้อมผนึกกลุ่มทุนใหม่เทกโอเวอร์ แมนยู

“เบคแคม” พร้อมผนึกกลุ่มทุนใหม่เทกโอเวอร์ แมนยู ต่อจากตระกูล “เกลเซอร์”

“เดวิด เบคแคม” ตำนานแข้ง “ทีมชาติอังกฤษ” และ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” จัดแจงที่จะผนึกกำลังกับกลุ่มทุนใหม่เพื่อเข้าครอบครองยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทรฟเฟิร์ด ต่อจากตระกูล “เกลเซอร์”

วันที่ 24 พ.ย. 65 เดวิด เบคแคม กองกลางระดับตำนานของ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ และ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จัดแจงที่จะผนึกกำลังกับกลุ่มทุนใหม่เพื่อเข้าครอบครองยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทรฟเฟิร์ด ต่อจากตระกูลเกลเซอร์ ที่เป็นเจ้าของทีมมานานกว่า 17 ปี จาการรายงานของ เดอะ ไทม์ส สื่อมีชื่อเสียง

เป็นที่เข้าใจกันว่า โจเอล เกลเซอร์ กับ อัฟราม เกลเซอร์ 2 พี่น้องนักธุรกิจคนประเทศอเมริกา ได้เปิดเผยว่าพวกเขายินดีที่จะพูดจากับคนที่พร้อมจะเข้ามาซื้อสโมสร นอกจากนั้นยังมีการเปิดรับการดำเนินแผนงานด้วยกันโดยที่อาจจะมีวิธีขายหุ้นปริมาณหนึ่งอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามข้อแรกที่ต้องการขายทีมนั้นดูเหมือนเป็นความต้องการสูงสุดมากยิ่งกว่า

ทั้งนี้ เดวิด เบคแคม พร้อมที่จะกระทำการพูดจากับกลุ่มทุนใหม่ที่ต้องการเข้ามาเป็นผู้ครอบครองทีมคนใหม่ ท่ามกลางกระแสที่ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษที่เป็นแฟนบอลตัวยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด และอยู่ที่คัมป์นู ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อปี 1999 นอกจากนั้นยังมีกลุ่มทุนจากนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ต้องการเข้ามาเป็นผู้ครอบครองทีมเหมือนกัน

เศรษฐีเบอร์ 1 ผู้ดีแบะท่าเทคโอเวอร์

ทำเอาแฟน ลิเวอร์พูล มีเซ็ง! เศรษฐีเบอร์ 1 ผู้ดีแบะท่าเทคโอเวอร์แมนยู

เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีที่มั่งคั่งที่สุดของ อังกฤษ แสดงท่าสนใจที่จะเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างจริงๆจังๆแล้วหลังจากตระกูล เกลเซอร์ ผู้ครอบครองทีม ผีแดง สัญชาติ อเมริกัน ประกาศอย่างเป็นทางการพร้อมขายสโมสรเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ตระกูล เกลเซอร์ สร้างความประหลาดใจไม่น้อยที่ตกลงใจขายทีม แมนฯ ยูไนเต็ด หลังเป็นเจ้าของสโมสรดังแห่ง พรีเมียร์ลีก มานาน 17 ปี และไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยมือแม้ว่าจะถูกกองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ รวมกลุ่มคัดค้านขับไสหลายหนในหลายปีหลัง

ต่อเหตุการณ์ล่าสุด เดอะ เทเลกราฟ รายงานเมื่อ 23 พ.ย.ว่า เซอร์ แรทคลิฟฟ์ ขยับเขยื้อนตัวตั้งท่าที่จะเทคโอเวอร์ ผีแดง แล้วหลังก่อนหน้าที่ผ่านมาไม่นานเขาออกโรงปฏิเสธการซื้อ หงส์แดง หากแม้กลุ่ม เอฟเอสจี จะแถลงขายสโมสรโดยให้เหตุผลว่าต้องการใช้เงินทุนกับ นีซ ทีมลูกหนังของ ลีกเอิง ที่เขาเป็นเจ้าของต่อไป

กระนั้นก็ดีแล้ว เป็นที่รู้กันว่าเศรษฐีที่มั่งคั่งที่สุดของ อังกฤษ เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้เขาเคยแสดงท่าพร้อมซื้อทีมรักมาบริหารด้วยในช่วงที่ตระกูล เกลเซอร์ ถูกแฟนบอลคัดค้านครั้งใหญ่หนล่าสุด แต่ช่วงเวลาเดียวกันเขาก็ยอมรับว่าไม่น่าจะเป็นได้เหตุเพราะเชื้อสาย เกลเซอร์ ไม่สนใจขายทีม

ต่อการแสดงความพร้อมเพรียงเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างจริงๆจังๆหลังมีการประกาศขายสโมสรจากนักธุรกิจชาว อเมริกัน นั้น เทเลกราฟ เผยว่าหากแม้ เซอร์ แรทคลิฟฟ์ จะพร้อมยื่นข้อเสนอ แต่ไม่น่าจะยินดีควักเงินในกระเป๋าสูงถึง 5 พันล้านปอนด์ (ราว 216,950 ล้านบาท) ตามที่มีการคาดกันว่าตระกูล เกลเซอร์ หวังได้รับค่าจ้างราวๆนั้น

ทั้งนี้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ เซอร์ แรทคลิฟฟ์ ตกเป็นข่าวกับ เชลซี เหมือนกันหลังทางการเมืองผู้ดีบังคับให้ โรมัน อบราโมวิช เศรษฐี รัสเซีย ขายทีมจากปัญหาด้านการทำสงครามกับ ยูเครน แต่เป็น ทอดด์ โบลีห์ นักลงทุนชาวเมืองแยงกี้ที่แสดงความมุ่งมั่นมากยิ่งกว่า และได้ครอบครอง สิงห์บลูส์ ในท้ายที่สุด