Saturday, 25 March 2023

ธุรกิจอสังหาฯ ใน “เมตาเวิร์ส” เฟื่องฟู นักลงทุนแห่ซื้อที่ดินโลกเสมือนจริง

รายงานวิจัยล่าสุดเปิดเผยว่า ตลอดตอน 12 เดือนที่ผ่านมาบรรดานักลงทุนทั้งโลกแห่กันเข้าซื้อจองที่ดินในโลกเปรียบเสมือนจริงหรือ “เมตาเวิร์ส” (Metaverse) กันเยอะมากๆ คิดเป็นมูลค่าเกือบจะ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว

แม้ยังมีความไม่แน่นอนสูงแล้วก็ต้องใช้เวลาอีกนานในการพัฒนาเมตาเวิร์ส เพื่อให้เป็นหลักที่ออนไลน์อย่างเดียวซึ่งผู้คนสามารถดำเนินชีวิตแบบอวตารบนโลกเปรียบเสมือน พบปะสนทนาคบหาสมาคม ทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆด้วยกันได้ แต่นักลงทุนพวกนี้ก็ยินดีทุ่มเงินก้อนโตเพื่อเก็งกำไรล่วงหน้า

แอนจี ทอมป์สัน ศิลปินจากเมืองไบรตันของอังกฤษ กลายเป็นผู้ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในโลกเมตาเวิร์ส หลังซื้อที่ดินแปลงหนึ่งเมื่อเดือน ก.ค. ปี 2020 ในราคา 1,500 ปอนด์ (ราว 63,500 บาท) เพื่อสร้างแกเลอรีสองที่นำเสนองานศิลปะของตนเอง และสนับสนุนผลงานของเพื่อนศิลปินผู้อื่นด้วย

เมตาเวิร์ส เฟื่องฟู

ที่ดินของแอนจีอยู่ในโลกเปรียบเสมือน “ว็อกเซลเวิลด์” (Voxel World) หนึ่งในแพลตฟอร์ม เมตาเวิร์ส

ที่คุณสามารถขายผลงานศิลปะดิจิทัลด้วยเงินคริปโตเคอเรนซีได้ แกเลอรีขนาดเท่าบ้านหลังเล็กของเธอสร้างเป็นอาคารสามชั้น แล้วก็มีดาดฟ้าให้แขกขึ้นไปชมวิววิว

“เพียงแค่กดปุ่ม F คุณก็จะสามารถบินขึ้นไปดูพื้นที่โดยรอบ ยังมีที่ดินอีกหลายแปลงในแถบนั้น เรียงชิดกันเป็นพืดยาวไปจนถึงถึงขอบฟ้า” แอนจีกล่าว

เว้นแต่ “เมตา” (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กแล้วก็อินสตาแกรมแล้ว ปัจจุบันนี้มีแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สของอีกหลายบริษัทซึ่งเปิดขายที่ดินในโลกเปรียบเสมือนจริงอยู่ โดยบริษัทพินิจพิจารณาข้อมูล Dapp Radar แถลงการณ์ว่า ตลอดช่วงหนึ่งปีที่ล่วงเลยไปมีนักลงทุนซื้อที่ดินในเมตาเวิร์สเหล่านี้แล้วทั้งหมดทั้งปวง 1,930 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในจำนวนนี้ราว 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกนำไปซื้อที่ดิน 33 แปลงในว็อกเซลเวิลด์

ข้อมูลดังที่ได้กล่าวมาแล้วถูกเผยเพราะเหตุว่ามีการใช้เงินคริปโตฯ สกุลอีคุณเรียม (Ethereum) สำหรับเพื่อการซื้อขายที่ดินเปรียบเสมือนจริง ทำให้มีการบันทึกข้อมูลเอาไว้แล้วก็เผยสู่สาธารณะผ่านทางบล็อกเชน

โลกเมตาเวิร์สยอดนิยมจากนักลงทุนอีกแห่งหนึ่งก็เป็น “ดีเซนทราแลนด์” (Decentraland) ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2020 ที่ดินเปรียบเสมือนจริงที่นี้ถูกบอกขายในสนนราคาตั้งแต่หลายพันไปจนถึงหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้มีบริษัทดังอย่างซัมซุง (Sumsung) ยูพีเอส (UPS) แล้วก็สำนักประมูลซอธบีส์ (Sotheby’s) สนใจเข้าซื้อเพื่อสร้างร้านค้าแล้วก็ศูนย์บริการลูกค้าในโลกเปรียบเสมือนจริงดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

สินค้าแฟชั่นแบรนด์หรู “ฟิลิปป์ ไพลน์” (Philipp Plein) ได้เข้าจับจองที่ดินขนาด 4 สนามฟุตบอลในดีเซนทราแลนด์ด้วย เพื่อตระเตรียมพัฒนาเป็นร้านค้าแล้วก็แกเลอรีเปรียบเสมือนจริงในอนาคต

ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์นี้พูดว่า แม่ของเขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่เขาทุ่มเงินในการนี้ไปถึง 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ “แม่ผมโทรมาด่าว่า แกทำอะไรของแก ? บ้าไปแล้วเหรอ ? ทำไมใช้เงินเยอะขนาดนี้…นี่มันอะไรกัน ?”

อันที่จริงแล้ว “ฟิลิปป์ ไพลน์” ขายสินค้าทางออนไลน์ที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินคริปโตฯ ถึง 24 สกุล มานานกว่าหนึ่งปีแล้ว แล้วก็เมื่อต้นปี 2022 เขายังเปิดร้านใหญ่บนถนน Old Bond Street ของกรุงลอนดอน ซึ่งขายทั้งเสื้อผ้าแล้วก็สินค้าเอ็นเอฟที (Non-Fungible Tokens – NFTs) ซึ่งลูกค้าสามารถจ่ายด้วยเงินสด หรือเลือกจ่ายด้วยเหรียญคริปโตฯ อย่างบิตคอยน์หรืออีเธอเรียมก็ได้

“ผมกล้าเปิดร้านนี้เพื่อศึกษาเกี่ยวกับเมตาเวิร์สให้เพิ่มมากขึ้น ผมกล้าทุ่มเงินซื้อที่ดินในโลกเปรียบเสมือนจริง เพราะเหตุว่าแบรนด์ของผมนั้นอยู่มานานถึง 24 ปีแล้ว ผมรู้สึกว่าจะทำยังไง หากในอนาคตพวกเราต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดทั้งปวง” ฟิลิปป์ ไพลน์ กล่าว

อย่างไรก็ดี Dapp Radar รายงานเพราะ การที่เงินคริปโตฯ มีมูลค่าลดฮวบลงอย่างถล่มทลายในปีนี้ ทำให้มูลค่าปัจจุบันนี้ของอสังหาริมทรัพย์ในโลกเมตาเวิร์สตกต่ำเป็นประวัติการณ์ โดยเฉียดเข้าใกล้ระดับค่อนข้างต่ำสุดในรอบหนึ่งปีแล้ว

ด้าน “แซนด์บ็อกซ์” (Sandbox) แพลตฟอร์มเมตาเวิร์สอีกแห่งหนึ่ง ก็มีสินค้าแล้วก็กิจการค้าเจ้าดังอย่างอาดิดาส (Adidas),อาตาริ (Atari), กุชชี (Gucci), ยูบิซอฟต์ (Ubisoft), ไบแนนซ์ (Binance) และวอร์เนอร์ มิวสิก (Warner Music) พากันเข้าจับจองเป็นเจ้าของที่ดินเปรียบเสมือนจริงเช่นกัน

เมตาเวิร์ส นักลงทุนแห่ซื้อที่ดิน

ในกรณีของกุชชีนั้น มีการลงทุนสร้างร้านค้าในโลกเกมออนไลน์ Roblox มาก่อนแล้ว ทั้งยังลงทุนในแบบเดียวกันที่แพลตฟอร์มเกมอื่นๆอย่าง Minecraft

แล้วก็ Fortnite อีกด้วย เพราะเหตุว่าโลกเปรียบเสมือนจริงของเกมพวกนี้มีคุณลักษณะความเป็นเมตาเวิร์สอยู่อย่างสมบูรณ์เพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการมีชุมชนคนเล่นเกมขนาดใหญ่ ที่คนจำนวนมากพร้อมเข้ามาเล่นแล้วก็ฝังตัวอยู่ในเกมเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ทั้งมีสกุลเงินของตนเองแล้วก็มีโอกาสทำเงินหรือใช้เงินได้ในตนเองอยู่แล้ว

ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ล่วงเลยไป “กุชชีทาวน์” (Gucci Town) ซึ่งเป็นร้านในโลกเปรียบเสมือนจริงของเกมออนไลน์ มีแขกถึง 36 ล้านคน โดยลูกค้าสามารถใช้เงินจริงซื้อสินค้าพวกเสื้อผ้าเครื่องประดับให้กับอวตารของตนเองได้ ส่วนร้านค้าในเกมออนไลน์ของไนกี (Nike) มีลูกค้าเข้ามาซื้อเสื้อยืดแล้วก็รองเท้าแบบเปรียบเสมือนจริงไปถึง 25 ล้านคน ในตอน 11 เดือนที่ผ่านมา

ดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นจะเป็นธุรกิจที่ให้ความสนใจกับจังหวะใหม่ๆที่มากับเมตาเวิร์สมากที่สุด ทั้งเป็นกรุ๊ปที่กล้ารับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางด้านเทคโนโลยีเยอะที่สุดด้วยเช่นกัน

กิจการค้าที่ขายของแฟชั่นสำหรับโลกอินเตอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว ดังเช่นว่า The Fabricant มุ่งผลิตสินค้าประเภทเสื้อผ้าแล้วก็เครื่องประดับสำหรับอวตารสวมใส่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อนำออกวางขายในดีเซนทราแลนด์ แซนด์บ็อกซ์ แล้วก็โลกเมตาเวิร์สที่ใช้เงินคริปโตฯ อื่นๆ

แอมเบอร์ แจ สลูเทน หัวหน้าดีไซเนอร์แล้วก็ผู้ร่วมก่อตั้งกิจการค้า The Fabricant พูดว่า “ในเวลาที่พวกเราเปิดบริษัทใหม่ๆผู้คนเห็นว่าพวกเราบ้า พวกเขารู้สึกว่าผู้ใดกันแน่กันที่จะซื้อข้าวของเปรียบเสมือนจริงพวกนี้ แต่พวกเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตผู้คนจะสวมใส่สินค้าดิจิทัลของพวกเรา”

ปัจจุบันนี้ The Fabricant พึ่งขายชุดราตรีลูกไม้ดิจิทัลไปได้เพียงชุดเดียว โดยคิดเป็นมูลค่า 19,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 715,000 บาท) ซึ่งเป็นการขายในลักษณะของผลงานศิลปะดิจิทัลหรือ NFT แล้วก็ผู้บริโภคผลงานไม่ได้นำไปให้อวตารของตนเองสวมใส่แต่อย่างใด

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม มีผู้ที่เชื่อมั่นในแนวคิดเมตาเวิร์สแล้วก็จังหวะทางธุรกิจที่อนาคตในโลกเปรียบเสมือนจริงอยู่ไม่น้อย ล่าสุด The Fabricant สามารถระดมทุนจากผู้พึงพอใจทั้งโลกได้ถึง 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว

เมตาเวิร์ส โลกเสมือนจริง

แต่ว่าวันที่ เมตาเวิร์ส จะกลายเป็นโลกที่ผู้คนใช้ดำเนินชีวิตอยู่เป็นหลัก

นั้นไม่มีใครทราบดีว่าจะมาถึงเมื่อใดแน่ เวลานี้แพลตฟอร์มโลกเปรียบเสมือนจริงที่ใช้เงินคริปโตฯ ยังมีแขกขาประจำแล้วก็ผู้ที่ลงหลักปักฐานสร้างธุรกิจเพียงแค่ห่างๆไม่กี่พันราย นอกจากในเวลาที่มีการจัดงานมหกรรมทางออนไลน์ครั้งใหญ่ๆเพียงแค่นั้น จึงจะมีแขกหลักล้าน

แม้กระทั้งแพลตฟอร์มของ “เมตา” เอง ที่ทุ่มทุนพัฒนาไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ยังมีข่าวรั่วไหลออกมาจากข้างในบริษัทว่า ผู้คนไม่ค่อยให้ความสนใจเข้าไปเยี่ยมโลกเปรียบเสมือนจริงแห่งนี้ และมักอยู่ไม่นานในแต่ละครั้ง

อย่างไรก็ดี สลูเทนยังเชื่อมั่นว่า “เมื่อมีการพัฒนาไปมากขึ้น ผู้คนจะเริ่มเข้ามาแล้วก็จะเกิดตลาดขนาดใหญ่อย่างแน่นอน ลองนึกถึงวัยรุ่นรุ่นใหม่ที่เล่นเกมออนไลน์อยู่แล้ว สำหรับพวกเขาไม่มีการแบ่งแยกระหว่างโลกจริงแล้วก็โลกเปรียบเสมือน แต่พวกเราต้องสร้างมันขึ้นมาก่อน”