ชาติแรกของโลก “วอลเลย์บอลหญิงไทย” ได้รับเลือกเป็นทูต รณรงค์สิทธิเท่าเทียม

หน่วยงานการกุศล LKTBF เลือก “วอลเลย์บอลหญิงไทย” เป็นทูตรณรงค์เพื่อสิทธิเท่าเทียม นับเป็นชาติแรกของโลกที่ได้รับเกียรตินี้ วันที่ 16 พ.ย. 65 หน่วยงานการกุศล Let’s Keep The Ball Flying (LKTBF) ที่มุ่งหมายให้ทุกคนได้โอกาสเท่าเทียม เพื่อช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิทธิที่เท่าเทียมกันผ่านพลังของการแข่งขันวอลเลย์บอล หลังประสานมือกับ สมาพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) เปิดตัวแคมเปญ Equal Jersey (ชุดแข่งขันที่เท่าเทียม) ในปีนี้ ซึ่งได้เริ่มต้นใช้ในการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง เนชันส์ ลีก 2022 รอบสุดท้าย ที่กรุงอังการา ประเทศตุรกี และ วอลเลย์บอลชาย เนชันส์ ลีก 2022 รอบสุดท้าย ที่เมืองโบโลญญา ประเทศอิตาลี ที่ผ่านมา

ซึ่งที่ผ่านมา LKTBF จะเลือกนักกีฬาหญิง เพื่อเป็นผู้แทนทั้งหมด 5 ราย จาก 5 ชาติ ร่วมแคมเปญ เพื่อรณรงค์ถึงความเท่าเทียมกัน โดยในปีนี้ได้ให้เกียรติ พรพรรณ กำเนิดปราชญ์ กัปตันทีมชาติไทย ให้ยอดเยี่ยมในผู้แทนนักกีฬาจากเอเชีย ร่วมแคมเปญนี้ร่วมกับบรรดาดาวดังอย่าง อีบราร์ คาราคูร์ต (ตุรกี), เฮลีจ์ วอชิงตัน (สหรัฐฯ), กาบี (บราซิล) และ เปาลา อีโกนู (อิตาลี)

ทาง หน่วยงานการกุศล Let’s Keep The Ball Flying ได้เปิดตัว วอลเลย์บอลหญิงไทย 

เป็นทูตที่จะช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิทธิที่เท่าเทียมกัน และมุ่งหมายให้ทุกคนบนโลกได้โอกาสเท่าเทียมกัน ซึ่งนับว่าเป็นชาติแรกของโลกที่ได้รับเกียรตินี้ โดยกล่าวว่า “ถือเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาทีมชาติทั้งทีมได้รับเชิญเป็นทูตที่เท่าเทียมกัน และเราเลือกทีมที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว นั่นก็เพราะ ทีมชาติไทย คือทีมสุดมหัศจรรย์ มาดูกันว่าพวกเขาจะฉลองความเท่าเทียมกันในการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกหญิงได้อย่างไร”

ย้อนกลับไปในศึกวอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ ลีก 2022 รอบสุดท้าย ที่กรุงอังคารา ประเทศตุรกี และ วอลเลย์บอลชาย เนชั่นส์ ลีก 2022 รอบสุดท้าย ที่เมืองโบโลญญ่า ประเทศอิตาลี ได้มีการเปิดตัวแคมเปญชุดแข่งขันที่เท่าเทียม หรือ Equal Jersey ให้นักกีฬาใส่ระหว่างการแข่งขัน

ซึ่งที่ผ่านมา LKTBF จะเลือกนักกีฬาหญิงเพื่อเป็นผู้แทนทั้งหมด 5 คนจาก 5 ชาติร่วมแคมเปญนี้ โดยในปีนี้ พรพรรณ เกิดปราชญ์ กัปตันทีม วอลเลย์บอลหญิงไทย ได้รีบเลือกให้ยอดเยี่ยมในผู้แทนนักกีฬาจากทวีปเอเชีย

สำหรับทัพนักวอลเล่ย์บอลลูกยางสาวไทย นับว่าเป็นหนึ่งในทีมลูกรักของสมาพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรือ FIVB หลังพวกคุณสร้างสีสันให้กับการแข่งขันทั้งยังในศึก เนชั่นส์ ลีก 2022 รวมไปถึงศึกชิงแชมป์โลก 2022 แถมยังทำผลงานได้ดิบได้ดีเกินคาด ด้วยการจบอันดับที่ 13 ของการแข่งขัน พร้อมสถิติการลงสนาม 9 เกม ชนะ 4 แพ้ 5 มี 11 คะแนน

เปิดรายชื่อทีมที่จะมาไทย! วอลเลย์บอลหญิงเนชั่นลีกส์ 2023

เรียกได้ว่าน่าเร้าใจมากเลยทีเดียวกับการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นลีกส์ 2023 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในอาทิตย์ที่สามของการแข่งขันในรอบแรก โดยจะมีอีกเจ็ดทีมเดินทางมาแข่งขันที่เมืองไทย นั่นก็คือบราซิล ญี่ปุ่น แคนาดา โครเอเชีย เนเธอร์แลนด์ อิตาลี และตุรกี โดยจะทำการแข่งขันทีมละสี่นัดในสนามนี้เพื่อเก็บคะแนนไปสู่รอบสุดท้าย การกลับมาจัดรายการวอลเลย์บอลสุดยอดในรอบสามปีของไทยในครั้งนี้เป็นการกระตุ้นต่อมความระทึกใจของแฟนลูกยางได้เลยทีเดียวสำหรับปีที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดเลือดพล่านและหลายรายการในปีหน้า

1. บราซิล

ทีมรองแชมป์โลกที่มีชื่อเสียงเรื่องสปิริตและความไม่ยอมแพ้ จัดเต็มดูเหมือนจะทุกรายการแข่งขัน เป็นอีกหนึ่งทีมที่มีคนรักคลับคนประเทศไทยอยู่เยอะพอควรเลย หากได้พบบราซิลในบ้านอีกครั้งก็จะเป็นนัดที่น่าติดตามอีกหนึ่งนัดเลย การพบกันครั้งล่าสุดเราก็สู้ได้อย่างใกล้เคียงและสนุกแพ้ไปแค่นิดเดียวแค่นั้นก็ต้องการจะเห็นสาวไทยแก้มือกับทีมบราซิลเช่นกัน

2. ญี่ปุ่น

เอเชียเพื่อนรักของเราถึงในปีนี้สองครั้งที่เจอะกันทั้งยังชุดใหญ่และชุดสำรองเราจะแพ้ไป 0-3 เซตแต่ก็ยังเป็นคู่ปรปักษ์ที่ต้องการพบในสนามไทย การพบกันที่ไทยครั้งล่าสุดในเนชันส์ลีก 2018 เราแพ้ไปอย่างน่าเสียดายต้องการเห็นภาพการเล่นแบบนั้นในไทยอีกรอบ สำหรับประเทศญี่ปุ่นเองการเล่นท่ามกลางเสียงเชีนร์ของไทยก็ไม่ง่ายเช่นกัน ซึ่งก็จะเป็นการพิสูจน์นักกีฬาของเราด้วยกับความกดดันจากการคาดหวังของกองเชียร์

3. แคนาดา

ในชิงแชมป์โลกทำเราผิดคาดกัยการที่เขาสามารถเอาชนะเราไปได้ ก็ต้องการจะให้มาลองพบกับไทยในบ้านดูอีกสักครั้ง หากชนะเราได้อีกก็แปลว่าไทยเองก็จะต้องพัฒนาฝีมือเพิ่มขึ้นเพื่อทิ้งห่างทีมอันดับใกล้เคียงกันเพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในรายการต่อๆไป

4. โครเอเชีย

ทีมหน้าใหม่ของเนชันส์ลีก เป็นทีมที่เราจะต้องเก็บชัยชนะมาให้ได้ เพื่ออันดับโลกและอันดับในรายการนี้ในชิงแชมป์โลกเหมือนโครเอเชียจะสติหลุดกับสปีดบอลของเรา มาครั้งนี้จำต้องเล่นท่ามกลางกองเชียร์ไทย ก็มีหลายจุดให้โครทวีปเอเชียจะต้องปรับปรุงแก้ไขเพื่อมาพบทีมไทยเช่นกัน

5. เนเธอร์แลนด์

ในปีนี้เราไม่พบเนเธอร์แลนด์เลย ก็เลยทำให้ยังไม่เคยรู้ว่าไทยชุดใหม่ของเราจะแพ้ทางเหมือนที่ผ่านมาหรือเปล่า และมั่นใจว่าปีที่กำลังจะถึงนี้เนเธอร์แลนด์น่าจะเป็นหนึ่งทีมที่มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเยอะ จะต้องดูว่าจะสามารถปรับระบบทีมได้ทันหรือเปล่าในรายการนี้ เนื่องมาจากครั้งที่ผ่านมากว่าทีมจะเข้าที่ก็เล่นเอานัดหลังๆเช่นกัน

6. อิตาลี

ของหนักเลยทีเดียวสำหรับทีมนี้ ทั้งยังมีการเล่นเร็วและบอลสูง ในการเจอะกันล่าสุดเล่นเอาสาวไทยของเราไปไม่ถูกเลยทีเดียว แต่ยังไงก็ตามแฟนกีฬาคนไม่ใช่น้อยก็อยากให้อิตาลีจัดชุดใหญ่มา ด้วยเหตุว่าต้องการพบดาวตบขวัญใจ ซึ่งในทีมก็มีหลายๆคนที่เป็นที่สรรเสริญของแฟนคลับไทย แต่หากจัดชุดใหญ่มาจริงๆก็ไม่ขอพบในสนามนี้แล้วกันเพื่อชัยชนะในบ้านของสาวไทย

7. ตุรเคียร์

คงจะเป็นอีกทีมที่ต้องการล้างตากับสาวไทยเป็นอย่างมาก หลังจากแพ้เราไปในชิงแชมป์โลก ก็จะต้องลองมาวัดกับกองเชียร์และสาวไทยในบ้านอีกสักครั้งหละ หลังจากเราโดนกองเชียร์ตุเคียร์ทำร้ายในรอบไฟนอลครั้งที่ผ่านมา ทีมนี้ก็เป็นทีมที่แฟนชาวเยอะด้วยเหมือนกัน ด้วยมีสาวไทยไปเล่นในลีกตุรเคียร์ทำให้ก็มีคนไม่ใช่น้อยที่คุ้นหน้าคุ้นตา ตั้งแต่ปี 2016 ที่นุศราไปเล้น จนกระทั่งในตอนนี้ที่มีอัจฉราพรและชัชชุอรเล่นอยู่